ประวัติโดยย่อของความสัมพันธ์ทวิภาคี
ความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียและไทยดำเนินมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัยและอาณาจักรมัชปาหิต ด้วยการแลกเปลี่ยนอารยธรรม ประชาชนของทั้งสองชาติจึงเชื่อมโยงกันผ่านศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา สถาปัตยกรรม และงานวรรณกรรม ความสัมพันธ์ทางการฑูตอินโดนีเซีย-ไทยมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2493 ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศเกิดขึ้นในสาขาต่างๆ เช่น เศรษฐศาสตร์ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ความสัมพันธ์นี้ขยายออกไปอีกโดยการเยือนร่วมกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ
ความร่วมมือและความสัมพันธ์ทางการเมือง
ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอินโดนีเซียกับไทยดำเนินไปด้วยดี ความใกล้ชิดของความสัมพันธ์นี้เห็นได้จากการประชุมและการเยือนร่วมกันของผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ รวมถึงการประชุมทวิภาคีของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน กับนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกรอบการประชุม Bali Democracy Forum 5 วันที่ 8 พฤศจิกายน
2555 ; นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยือนอินโดนีเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด APEC วันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2556 ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโนเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก (WEFEA) ในปี 2555 การประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดี โจโก วิโดโด กับนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกรอบการประชุม Asian-African Conference (KAA) ครบรอบ 60 ปี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2558 ที่กรุงจาการ์ตา และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เสด็จเยือนกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 เพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เป็นครั้งสุดท้ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน
ประเด็นหลักสำหรับกิจกรรมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศคือ เวทีคณะกรรมาธิการร่วมซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากการลงนามความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิคของโรตารีไทย-ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2535 ในการประชุมครั้งที่ 6 ของคณะกรรมาธิการร่วมโรตารี-ประเทศไทยซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16-18 มกราคม 2551 ที่เพชรบุรี ประเทศไทย มีการหารือประเด็นทวิภาคีหลายประการที่ทั้งสองประเทศจะพัฒนาต่อไป ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ การค้า การขนส่ง การศึกษาและวัฒนธรรม การลงทุน การประมง การท่องเที่ยว พลังงาน ความร่วมมือทางเทคนิค และ ความร่วมมือ IMT-GT ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม RI-ประเทศไทย (ครั้งที่ 5) ครั้งที่แล้วที่เมืองยอกยาการ์ตา เมื่อปี พ.ศ. 2546 ได้ตกลงที่จะเปลี่ยนชื่อคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการระหว่างสาธารณรัฐอินโดนีเซียและราชอาณาจักรไทยเป็นคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างสาธารณรัฐ ของอินโดนีเซียและราชอาณาจักรไทย
ความร่วมมือทางสังคมวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการศึกษา
แม้ว่าจะไม่มีข้อตกลงทางวัฒนธรรมระหว่างอินโดนีเซียและไทยในการควบคุมความสัมพันธ์ทางสังคมวัฒนธรรม แต่ความปรารถนาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศไทยในด้านนี้ก็มีค่อนข้างมาก สาขาต่างๆ ที่มักมีการดำเนินการในความร่วมมือนี้ ได้แก่ การศึกษา วิทยาศาสตร์ กิจการนักศึกษา ศิลปะ กีฬา ศาสนา สุขภาพ สภาพแวดล้อมทางสังคม การแลกเปลี่ยนการมาเยือน/คำเชิญจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เอกชน และหน่วยสอดแนม
ความร่วมมืออื่นๆ
ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในด้านการป้องกันและความมั่นคงมีความก้าวหน้าไปด้วยดี สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในความมุ่งมั่นระดับสูงในการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอระหว่างผู้นำกองทัพของทั้งสองประเทศ การฝึกอบรมร่วมกัน การสัมมนา และการแลกเปลี่ยนข้อมูล ตลอดจนการแลกเปลี่ยนนักศึกษาภายใต้กรอบการศึกษาของวิทยาลัยเสนาธิการทหารบก
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีข้อตกลงในการขจัดการค้ายาเสพติดที่ผิดกฎหมายภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันยาเสพติดแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะกรรมการป้องกันยาเสพติดแห่งชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด ยาเสพติด สารออกฤทธิ์ต่อจิต สารตั้งต้นและสารเคมี และการใช้ยาในทางที่ผิด ระหว่างสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติอินโดนีเซีย (BNN) และสำนักงานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด (ONCB) ประเทศไทย
การประสานงานและความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวกรองแห่งรัฐอินโดนีเซีย (BIN) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (NIA) ของไทยก็ดำเนินไปด้วยดีเช่นกัน โดยทั้งสองฝ่ายยังคงรักษาและทำงานเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
